FOLLOW US

“ผู้เชื่อมญี่ปุ่นเข้ากับเอเชีย” ชนาธิป (คอนซาโดเล่ ซัปโปโร) “หวังว่าจะมีตัวผมคนที่ 2 และ 3 เกิดขึ้นมา”

2020.08.14

(รูปภาพ)=J.LEAGUE

คอลัมน์ประจำว่าด้วยเรื่องราวของนักเตะเอเชียซึ่งกำลังทำผลงานได้ดีที่ญี่ปุ่น ซึ่งเปรียบเหมือน “ผู้เชื่อมญี่ปุ่นเข้ากับเอเชีย” จะมาถ่ายทอด “ความรู้สึกต่อประเทศบ้านเกิด”

เหล่านักเตะต่างชาติที่ไปค้าแข้งต่างแดน ต่างประสบปัญหาความแตกต่างด้านภาษาและวัฒนธรรม ถึงกระนั้น พวกเค้ายังต้องเร่งสร้างผลงาน ทำให้ความรู้สึกในการทุ่มเทเพื่อประเทศบ้านเกิดนั้นมีมากกว่าคนทั่วไป 2 เท่า

จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ โควิด-19 ทำให้วงการกีฬาทั่วโลกนั้นต้องหยุดทุกอย่างลงชั่วขณะ ในระหว่างนั้นเอง เหล่านักเตะคงมีช่วงเวลาหวนรำลึกถึงบ้านเกิดที่ตนเองจากมากันเพิ่มมากขึ้นเป็นแน่ พวกเค้าคิดอะไรกัน และ ทำอะไรกันระหว่างนั้น ในตอนที่ 1 นี้ เราได้ไปพูดคุยกับชนาธิปซึ่งจากประเทศไทยมาค้าแข้งที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2017

<日本語版はこちらから>

เฮดโค้ชนิชิโนะ เป็นคนร่าเริง คุยเก่ง อีกทั้งเค้ายังชอบเล่าเรื่องส่วนตัวด้วย


【ประวัติย่อ】
#18 ชนาธิป (ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร/กองกลาง)
เกิดวันที่ 5/10/1993 ที่จังหวัด นครปฐม ประเทศไทย ในปี 2012 เริ่มต้นค้าแข้งอาชีพกับทีมสโมสร BEC เทโรศาสน และคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำลีกได้ในปีแรกที่ลงเล่นอาชีพ จากนั้น ในปี 2016 ย้ายไปค้าแข้งกับทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด และในปีถัดมาได้ย้ายไปร่วมทีมคอนซาโดเล่ ซัปโปโรแบบยืมตัว ก่อนที่จะย้ายแบบถาวรในเดือน 2 ปี 2019 ส่วนสูง 158 เซนติเมตร รูปร่างเล็ก แต่มีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม ฤดูกาลที่ผ่านมาลงเล่น 28 นัด ทำได้ 4 ประตู ครั้งนี้ ชนาธิปตอบรับให้สัมภาษณ์ทางออนไลน์

――ในช่วงหยุดเตะของเจลีกจากผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ เราดำเนินชีวิตแบบไหน?
ชนาธิป : พยายามรักษาความฟิตอย่างเต็มที่ด้วยการ กินอาหารให้ครบหมู่ และ เทรนนิ่งอยู่ที่บ้าน ตอนนี้สภาพร่างกายดีมาก เรียกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ได้เลย ไวรัสรอบนี้ระบาดไปทั่วโลกถือเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่ในส่วนของเวลาที่สูญเสียไปอย่างสิ้นเปลืองในช่วงที่หยุดเตะ รู้สึกเสียดายมาก เพราะ วงจรชีวิตของนักฟุตบอลอาชีพมันสั้นด้วย

――J1 จะกลับมาเตะอีกครั้งในวันที่ 4 เดือน 7 ส่วนไทยลีกตัดสินใจฉีกแนวไปเป็นระบบเตะข้ามปีตามแบบลีกยุโรป โดยจะกลับมาเริ่มเตะอีกครั้งเดือน 9 นี้
ชนาธิป : สำหรับตัวนักเตะแล้ว คงรู้สึกว่าช่วงพักเตะมันยาวไปนิด ส่วนกรณีของญี่ปุ่น คิดว่า ที่เลือกกลับมาเตะอีกครั้งในเดือน 7 นี้ เพราะคำนึงถึงเรื่องพวกสปอนเซอร์ด้วย

――เดือน 10 นี้ การแข่งฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย จะมีกำหนดกลับมาแข่งขันอีกครั้ง แบบนี้พวกนักเตะทีมชาติไทยที่เล่นในไทยลีก จะมีผลกระทบในเรื่องความฟิตหรือเปล่า?
ชนาธิป : คิดว่าโปรแกรมแข่งช่วงนั้นก็คงแน่น และเป็นไปได้ว่าจะมีความเหนื่อยล้าสะสม ตรงนี้มันเป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น พวกนักเตะที่เล่นในเจลีกอย่างพวกผม และ พวกนักเตะที่เล่นในไทยลีกก็ต้องลงเล่น โดยพยายามรักษาสภาพความฟิตให้ได้ดีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

――ตอนนี้ทีมชาติไทย ในบอลโลกรอบคัดเลือก รอบที่ 2 โซนเอเชีย อยู่อันดับที่ 3 ของกลุ่ม การจะผ่านเข้ารอบคัดเลือก รอบสุดท้ายให้ได้ 2 รายการติด ดูแล้วแพ้ไม่ได้เลยนะ?
ชนาธิป : อีก 3 เกมที่เหลือ ไม่มีเกมไหนง่ายเลยสักเกม เราต้องพยายามเล่นให้เต็มที่ทุกเกม

ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบที่ 2 ทีมชาติไทยอยู่ร่วมกลุ่มกับ ทีมชาติเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ผลงานหลังผ่านไป 5 เกม ไทยชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 อยู่อันดับที่ 3 ในเดือน 10 ปีนี้ มีกำหนดเตะกับทีมชาติอินโดนีเซีย ส่วนเดือน 11 มีกำหนดเตะกับทีมชาติ UAE และ มาเลเซีย (รูปภาพ) = Getty Images

―― ทีมชาติไทย ตั้งแต่เดือน 7 ปีที่แล้ว ได้เฮดโค้ชอากิระ นิชิโนะเข้ามาคุมทีม จากมุมมองของชนาธิป เค้าเป็นโค้ชแบบไหน?
ชนาธิป : ถือเป็นผู้ฝึกสอนระดับแถวหน้าของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งฝากผลงานไว้มากมายทั้งกับทีมชาติญี่ปุ่น และ เจลีก คิดว่าเป็นโค้ชที่ดีมากๆคนหนึ่ง เค้าร่าเริงและคุยเก่ง ตอนที่ถูกเรียกตัวไปเตะทีมชาติ เค้ายังเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังอยู่บ่อยครั้งด้วย

―― ความแตกต่างกับโค้ชชาวไทยคือ?
ชนาธิป : เป็นคำถามที่ยากนะ ทั่วไปเรามักมองว่าโค้ชชาวญี่ปุ่นจะเข้มงวดในเรื่องระเบียบวินัย แต่สำหรับเฮดโค้ชนิชิโนะแล้วไม่ได้ถึงขนาดนั้น ตอนเก็บตัวทีมชาติ เนื่องจากเวลาในการฝึกซ้อมร่วมกันไม่เยอะ ทำให้เค้ามุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจกับแผนการเล่นมากกว่า รูปแบบการเล่นก็ถือว่าให้อิสระเล่นได้เต็มที่ แต่จะประชุมทีมบ่อยครั้ง แถมก่อนซ้อม เค้าจะหยิบกระดานมาอธิบายแผนการเล่นทีละช็อตให้อย่างละเอียดด้วย

――เฮดโค้ชนิชิโนะ ได้รับการสนับสนุนอย่างมากในประเทศไทย ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของเค้า คุณคิดว่าจะพัฒนาไปได้อีกไกลไหม?
ชนาธิป : อืมม เรื่องนี้ เป็นปัญหาที่เกี่ยวพันถึงนักเตะด้วย ก่อนอื่น นักเตะแต่ละคนจะต้องพัฒนาตัวเองให้ได้ดีก่อน และถ้าพวกเราช่วยกันเล่นฟุตบอลในแบบของเฮดโค้ชนิชิโนะได้ ผมคิดว่าเราจะสร้างผลงานที่ดีได้

โค้ชมักพูดกับผมเสมอว่า “เล่นดีอย่างเดียวมันไม่พอ”

ย้ายจากไทย ไปเล่นที่ญี่ปุ่นตั้งแต่เดือน 7 ปี 2017 (รูปภาพ)=J.LEAGUE

――หลังจากย้ายมาร่วมทีมฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร หากนับถึงฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 2 ฤดูกาลครึ่ง ก่อนย้ายมาเจลีก คุณพูดไว้ว่า จะประสบความสำเร็จที่เจลีกได้หรือไม่นั้น “ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้” ตอนนี้คุณสร้างผลงานโดดเด่นไว้มากมาย อาทิเช่น การถูกเลือกเป็น 11 นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของเจลีกในปี 2018
ชนาธิป : พูดตามตรง แม้แต่ตัวเองก็ยังแปลกใจ เพราะผมย้ายมาเล่นที่ญี่ปุ่นด้วยความฝันว่าอยากจะประสบความสำเร็จที่เจลีก ไม่เคยคิดเลยว่าจะสามารถสร้างผลงานได้โดดเด่นถึงขนาดนี้ จะว่าไปแล้ว ผลงานเหล่านี้มันเป็นผลงานเด่นส่วนตน แต่สำหรับทีมแล้ว ยังไม่สามารถสร้างผลงานได้ในระดับที่น่าพอใจเลย จากนี้ไปนอกจากต้องพยายามในส่วนของตัวเองแล้ว ยังต้องพยายามช่วยทีมสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้นด้วย

――คิดว่าอะไรคือสาเหตุหลักที่ทำให้ประสบความสำเร็จที่เจลีก?
ชนาธิป : มันไม่ได้มาจากความสามารถของเราเพียงคนเดียว แต่ ผลงานทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของทุกคนภายในทีม หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีม โค้ช รวมถึงเหล่าสต๊าฟทุกคน คิดว่ามันคงเกิดขึ้นได้ยาก

――ในฤดูกาล 2018 คุณยิงในลีก J1 ได้ 8 ลูก แต่ตอนเล่นอยู่ไทยลีก คุณเคยทำประตูได้สูงสุดในหนึ่งฤดูกาลแค่ 4 ลูก หลังจากมาญี่ปุ่น สัญชาตญาณการทำประตูมันเปลี่ยนไปเหรอ?
ชนาธิป : เป็นเพราะโค้ชมิช่า (มิไฮโล เปโตรวิช) เลย โค้ชพูดกับผมเสมอว่า “เล่นดีอย่างดีมันไม่พอ” ผลงานที่ดีมันแสดงผ่านตัวเลข กล่าวคือ ต้องทำประตู หรือ แอสซิสต์ให้ได้ด้วยนั่นเอง ผมคิดว่าสัญชาตญาณในการทำประตูมันเปลี่ยนไป เพราะโค้ชพร่ำสอนเรื่องนี้เสมอ จนเป็นที่มาของผลงานการทำประตูได้ถึง 8 ประตู

หลังจบฤดูกาล 2018 ชนาธิป คว้า MVP หลังได้รับการโหวตจากเพื่อนร่วมทีมซัปโปโร อีกทั้งยังถือเป็นนักเตะจากชาติอาเซียนคนแรกที่ได้รับการเลือกให้ติด 11 นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของเจลีกอีกด้วย (รูปภาพ)=J.LEAGUE

――เมื่อก่อน คุณเคยพูดว่า “อยากปูทางให้นักเตะไทยรุ่นหลังได้มาเล่นที่ญี่ปุ่น” ในฐานะนักเตะไทยคนแรกที่มาค้าแข้งที่ J1 ตอนนี้ พูดได้ว่ามันเป็นเช่นนั้นแล้วนี่
ชนาธิป : เรื่องจริงตอนนี้ คือ มีสโมสรในเจลีกที่สนใจนักเตะไทยจริงจังหลายสโมสร อาจพูดได้ว่าผมทำภารกิจได้สำเร็จแล้ว การย้ายมาค้าแข้งที่เจลีกถือเป็นความท้าทายมาก ตลอด 2 ฤดูกาลครึ่งที่ผ่านมา ผมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “นักเตะไทยเองก็ประสบความสำเร็จที่ญี่ปุ่นได้” ตอนนี้มีนักเตะไทยหลายคนมาเล่นที่ J1 หากพวกเค้าสร้างผลงานได้ดีด้วย ยิ่งถือเป็นการสร้างใบเบิกทางที่ดีให้กับนักเตะไทยรุ่นหลังได้ย้ายมาแข้งที่เจลีก

――จากประสบการณ์ในเจลีกที่มีมา คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้วงการฟุตบอลไทยเติบโตจากนี้ขึ้นไปได้อีก?
ชนาธิป : ผมมองว่านักเตะไทยมีความสามารถเฉพาะตัวดีอยู่แล้ว และไทยลีกเองก็พัฒนาขึ้นมามากแล้ว ดังนั้น ต้องไปเติมเรื่องแทคติกการเล่น รวมถึงพัฒนาความเป็นมืออาชีพให้มากขึ้นตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวันเลย หากมองระยะยาวสิ่งสำคัญที่สุด คือ การปั้นเยาวชน แต่การสะสมประสบการณ์ ด้วยการย้ายไปเล่นลีกต่างประเทศ เช่น เจลีก ก็ถือเป็นสูตรสำเร็จที่ดีวิธีหนึ่ง

――ก่อนหน้านี้ คุณเคยพูดไว้ว่า การประสบความสำเร็จในการเล่นที่เจลีก คือ หนึ่งในความฝัน ส่วน อีกหนึ่งความฝันก็คือการได้ย้ายไปค้าแข้งที่ยุโรป ช่วงนี้เห็นมีข่าวอยู่ว่า มีทีมจากอังกฤษ และ สเปนสนใจคว้าคุณไปร่วมทีม คุณคิดยังไงกับการย้ายไปเล่นที่ยุโรป ?
ชนาธิป : ถ้ามีโอกาส ในใจเองก็อยากลองไปดูนะ แต่ว่าการจะย้ายไปเล่นนั้น ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมด้วย หากประสบความสำเร็จในการเล่นที่ยุโรป ก็ถือเป็นการสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆให้กับนักเตะไทยรุ่นหลังได้ย้ายไปเล่นที่นั่นด้วย

――ตอนนี้ หากได้ย้ายไปเล่นที่ยุโรป คุณมั่นใจว่าเล่นได้ไหม ?
ชนาธิป : ก็คงเหมือนกับก่อนที่ผมจะย้ายมาเล่นที่เจลีกแหล่ะ หากไม่ลองเล่นดูจริงๆก็ไม่รู้หรอก แต่เชื่อว่าต้องมีอะไรให้เก็บเกี่ยวมากมายแน่นอน คงไม่มีอะไรเสียหายกับการลองไปเล่นดู

ฝีมือการเล่นของเรามันสู้เค้าได้ เลยทำให้มั่นใจขึ้น

ชนาธิปสมัยเล่นอยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด [รูปภาพ]=Getty Images

――ขอถามถึงเรื่องราวตอนเล่นอยู่ที่ไทยลีกด้วย ชนาธิปเล่นอยู่ที่ BEC เทโร (ปัจจุบัน คือ โปริส เทโร) กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด สองสโมสร รวมแล้ว 6 ฤดูกาล ตลอดการเล่น มีฤดูกาลไหนประทับใจเป็นพิเศษไหม?
ชนาธิป : แน่นอนว่า ประสบการณ์การคว้าแชมป์เป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก ก่อนอื่นเริ่มจากทีม BEC ซึ่งเป็นทีมแรกที่ผมเล่นในการค้าแข้งอาชีพ โดยฤดูกาล 2014 สามารถคว้าถ้วยแชมป์บอลลีกคัพได้ อีกครั้งคือ ฤดูกาล 2016 สามารถคว้าแชมป์บอลลีกตอนเล่นอยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด ร่วมกับธีรศิลป์ และ ธีราทรที่ปัจจุบันเล่นอยู่ในเจลีก

――ตอนปี 2014 ที่คว้าแชมป์บอลลีกคัพได้กับ BEC คุณเป็นเพื่อนร่วมทีมกับ ไดกิ อิวามาสะ อดีตทีมชาติญี่ปุ่นด้วยนี่
ชนาธิป : ช่วงแรกรู้สึกเข้าถึงยากเหมือนมีกำแพงขวางกั้น หลังจากได้ลองพูดคุยด้วยแล้ว เค้าสอนอะไรหลายอย่าง จนผมได้เรียนรู้จากเค้ามากมายหลายสิ่ง โดยเฉพาะด้านความเป็นผู้นำ และ ความเป็นมืออาชีพ ว่าควรต้องทำตัวยังไง ตรงนี้ได้รับอิทธิพลจากเค้ามามากเลยทีเดียว

――ฤดูกาลสุดท้ายกับเมืองทอง ยูไนเต็ด คุณได้ลงเล่นใน AFC แชมเปียนส์ลีก แถมเปิดบ้านเอาชนะทีมคาชิม่า แอนท์เลอร์สได้ ประสบการณ์ตรงนั้น หลังจากย้ายมาเล่นที่เจลีกแล้ว ช่วยเราได้ด้วยไหม?
ชนาธิป : จะว่าไป ฝีมือการเล่นของเรามันสู้เค้าได้ เลยทำให้มั่นใจขึ้น คาชิม่า เป็นทีมแข็งแกร่งที่วางแทคติกการเล่นมาดีมาก พวกผมเลยต้องเตรียมความฟิตและแผนการเล่นเพื่อรับมือกับยอดทีมจากญี่ปุ่นหนักมาก ท้ายที่สุดผลการแข่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เลยทำให้คว้าชัยได้ ดีใจมากๆเลย

เกมแข่งกับทีมคาชิม่า ในรายการ ACL เดือน 2 ปี 2017 ชนาธิปได้ลงเล่นเต็มเกม และ มีส่วนช่วยให้ทีมเอาชนะได้ 2-1 [รูปภาพ]=Getty Images

――เวลากลับเมืองไทย มักทำอะไร?
ชนาธิป : ส่วนใหญ่จะได้กลับเมืองไทยแค่ช่วงมีเกมทีมชาติ ทำให้มีเวลาอิสระได้แค่วันหรือสองวันเท่านั้น หากมีเวลาก็มักใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

――ที่บ้านเกิดจังหวัดนครปฐม คุณสร้าง “ชนาธิป สปอร์ตคลับ”ขึ้นมาด้วยทุนส่วนตัว ตรงนี้ คุณสร้างมันขึ้นด้วยจุดมุ่งหมายใด?
ชนาธิป : สปอร์ตคลับนี้ สร้างขึ้นด้วยความรู้สึกที่อยากจะตอบแทนบุญคุณพ่อ และ ประเทศไทย พ่อชอบฟุตบอลตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว และตอนผมเป็นเด็ก พ่อก็สอนฟุตบอลให้ผมมาโดยตลอดด้วย ผมมีวันนี้ได้ก็เพราะพ่อเลย ปัจจุบันนี้พ่อก็เป็นคนสอนพวกเด็กๆที่มาเรียนที่สปอร์ตคลับแห่งนี้ ผมก็หวังว่าจะมี “ชนาธิป 2” และ “ชนาธิป 3” เกิดขึ้นจากสถานที่แห่งนี้

――จากนี้ไป ตั้งเป้ากับการค้าแข้งที่เจลีกยังไง?
ชนาธิป : อันดับแรก คือการคว้าแชมป์ลีกให้ได้ในฤดูกาลนี้ ถ้าเราไม่ผิดพลาดเสียประตูง่ายๆ เชื่อว่าเราสามารถคว้าแชมป์ลีกได้

――สุดท้ายนี้ ฝากอะไรถึงแฟนบอลชาวไทย และ ญี่ปุ่นหน่อย
ชนาธิป : ในฤดูกาลนี้ ผมจะพยายามช่วยทีมไล่ล่าความสำเร็จให้ได้ ดังนั้น ฝากแฟนบอลทั้งไทย และ ญี่ปุ่นช่วยเป็นกำลังใจให้กับทีม ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโรด้วย รวมถึงฝากแฟนบอลช่วยเป็นกำลังใจให้กับนักเตะไทยคนอื่นๆที่เล่นอยู่ในเจลีกด้วย

สัมภาษณ์ และ เรียบเรียง โดย ทัตสึนาริ ฮอนดะ

BACK NUMBER【日本とアジアをつなぐひと】のバックナンバー

SHARE

SOCCERKING VIDEO